อีกบทหนึ่ง
กาลใดอาทิตย์ยั้ง อัศวินีฤกษ์เอย
ตติยบาทอัตรามี ปราชญ์ย้ำ
นวางค์แรกรัชนี จอดภพโคนา
ราชอุบัติล้ำ เลิศด้วยบารมี
บางท่านงงว่า อาทิตย์ยั้งที่ไหน อัศวินีฤกษ์อยู่ที่ไหน บางท่านเก่งหน่อยบอกว่า อ๋อ! อยู่ราศีเมษเป็นฤกษ์แรก แล้วตติยบาทมันคืออะไร รัชนีคืออะไร ภพโคคือภพอะไรต้องรู้กระจ่างทั้งหมดนี่ ถึงจะทายได้ว่า เจ้าชะตาดวงนี้ต่อไปจะได้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน เมื่อไม่รู้ไม่มีครูแล้วจะไปถามใคร
พอเจอครูที่รู้แตกฉานแล้วยังไปเจอปัญหาอีกว่า เอ๊ะ! เมืองไทยคนจะเป็นพระเจ้าแผ่นดินได้ต้องเป็นไปตามกฎมณเฑียรบาล แล้วสามัญชนได้เกณฑ์ดังนี้ จะเป็นพระเจ้าแผ่นดินได้ไหม ถ้าไม่ได้ครูจะชี้แจงว่าอย่างไร
พอเรียนไปถึงเรื่อง อินทภาส-บาทจันทร์ ในโหราศาสตร์ไทยชั้นสูง เล่ม 3 ของ อ.พลูศักดิ์ แสงคล้อย ความว่า
อนึ่งบาทฤกษ์นั้น พฤษภ กันย์ มังกร
ตรีนิปถมา ตุลย์ กุมภา เมถุนัง
เป็นตรีนิอวสาน สิบแปดบาทนี้โดยหวัง
ลัคน์จรมาเกาะยัง นวางค์นี้จะอันตราย
จักขุจะมืดมน ธ บ่มิตนจะวางวาย
จะเกิดเป็นฝีร้าย ไข้ผีพรายทักทำมา
เอาล่ะซิ ตรีนิปถมา ตรีนิอวสาน มันคืออะไร แปลว่าอย่างไร สิบแปดบาทนี้หน่ะมันสิบแปดบาทไหน แล้วลัคน์จรล่ะ มันจรยังไง แต่คำทำนายอ่านแล้วพอไหว
ที่ยกมาพอเป็นสังเขป ความจริงยังมีอีกเยอะ สิ่งเหล่านี้ถ้าไม่พึ่งครูอาจารย์แล้วจะไปถามใคร หันมาฟังความรู้สึกทางครูอาจารย์กันบ้าง บางท่านก็บ่นว่า แหม กว่าจะได้ความรู้ขนาดนี้มาก็เหนื่อยทั้งกายทั้งใจ เปลืองทั้งทรัพย์มาไม่น้อย มาหาเลี้ยงชีพด้วยวิชาโหรมันช่างอาภัพเสียจริงๆ ใครมาก็อยากได้ฟรีๆ หยอดแต่คำหวานไว้ให้ กินก็ไม่ได้ ทีเรียนในมหาวิทยาลัยหมดเป็นหมื่นเป็นแสนเรียนได้ มาเรียนกับเราควักยากจริงๆ ว่าอันที่จริงแล้วก็น่าเห็นใจท่าน ให้แต่ความเคารพกราบไหว้ไม่ดูแล ท่านก็อดตาย อันนี้น่าเป็นห่วงขอบัณฑิตผู้แสวงหาวิชาโปรดพิจารณากระทำการอันควร
มาถึงตรงนี้ท่านก็ได้รู้แล้วว่าอยากดูดวงให้แม่น เป็นโหรที่เก่งกล้าสามารถทายได้แม่นยำดังตาเห็น ก็ต้องมี 2 ข้อ คือ 1. มีตำราดี 2. มีครูบาอาจารย์ ส่วนตำรานั้นมีสตางค์หาซื้อได้ทั่วไป ชอบอันไหนซื้ออันนั้นศึกษาได้ดังใจ ส่วนครูนั้นในปัจจุบันมีเยอะแยะแต่จะเป็นศิษย์ของใครดี ครูคนนี้เก่งจริงหรือเปล่า ฝากตัวเป็นศิษย์เข้าไปเรียบร้อยแล้ว ครูแต่ละคนก็ยังมีแนวสอนเป็นของใครของมัน ไม่เหมือนกัน เพราะท่านศึกษาพิสูจน์กับดวงจริงแล้ว เห็นอันไหนดี ถูกต้อง ท่านก็ใช้อันนั้น บางท่านบังคับด้วยว่า เมื่อเป็นศิษย์ฉันต้องใช้อย่างนี้จะใช้อย่างอื่นไม่ได้ อันนี้ก็ยุ่งยากอยู่ ต้องพิจารณาให้ดี
ปกรณ์โหรที่ดีๆ ควรศึกษาให้รู้จริง ความจริงแล้วมีไม่มากนัก เท่าที่พอจะประมวลมาเล่าสู่กันฟังก็พอได้ดังนี้
1. เรื่องความหมายของดวงดาว ของเรือนภพ ตำแหน่งของดาว ธาตุของดาว ปรปักษ์ธาตุ คูณธาตุ คู่มิตร คู่ศัตรู คู่ธาตุ คู่สมพล ตำนานชาติเวรของดาว กำเนิดของดาว ส่วนประกอบพื้นฐาน อยู่ในโหราศาสตร์ไทยชั้นสูง เล่ม 1 ของ อ.พลูศักดิ์ แสงคล้อย และอาจารย์อื่นๆ พอหาท่องได้
2. กฎเกณฑ์ต่างๆ เช่น คัมภีร์สุริยศาสตร์ คัมภีร์สารัมภ์ คัมภีร์จักรทีปนี ฯลฯ
3. โยคเกณฑ์อันเป็นส่วนสำคัญในการพยากรณ์ เช่น โยคหน้า โยคหลัง กุม เล็ง ตรีโกณ มุมดี มุมร้าย ในระดับองศา ลิปดา เกณฑ์พิเศษ
4. การคำนวณวางลัคนา สมผุสองศาดาวทุกดวง คำนวณเข้าดวงนวางค์จักร คำนวณเข้าดวงอินทภาส-บาทจันทร์ พร้อมทั้ง กลขับและกลทาย ทั้งดวงกำเนิดและดวงจร
5. ทักษาปกรณ์ กลขับทักษากำเนิด กลขับทักษาจร กลทายทักษาและกลทายทักษาผสมเรือน มีมากมายหลายวิธี จนลังเลไม่รู้จะใช้วิธีไหน อันนี้ก็เถียงกันไม่จบ
6. กลขับและกลทาย ดวงสิบลัคน์ บางอาจารย์ท่านเห็นว่าดีจริง
7. กลขับและกลทายดวงกาลจักร ลัคน์จร บางอาจารย์ก็ยกย่อง
8. ยามอัฐกาล กลขับและกลทายดวงกาลชะตาส่วนยามตรีเนตร จับยามสามตาหมดสมัยไปแล้วไม่มีใครใช้กันในปัจจุบัน
9. ดวงวรรษจักรา-มาสจักรา, ดวงมหาจักร ดวงตรีโลกศาสตร์, ดวงจตุรภิส-มหาภิส, ดวงอินทรจักร พระเคราะห์รูป – พระเคราะห์สม, ดวงโหรบวร ทั้งกลขับและกลทาย ในปัจจุบันนี้ไม่นิยม ไม่มีใครเอามาใช้กัน
ส่วนดวงกาลชะตา บางท่านว่าเกิดขึ้นในสมัยอยุธยา บางท่านว่าเกิดขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ ข้าพเจ้าเห็นว่านำมาใช้ผสมเรือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกลอนตัวอย่างเรื่องพระโหรยิ่งปรีชา และต้องนำความรู้ กลขับ กลทาย ยามอัฐกาลเข้ามาผสมด้วยจึงจะขับและทายได้ อยู่ในเล่ม 2 ของ อ.พลูศักดิ์ แสงคล้อย ความจริงมันเป็นการผูกดวงชะตาของปราชญ์ในสมัยก่อน เหตุมาจากคนในสมัยก่อนไม่รู้เวลาตกฟาก เพราะมันละเอียดถึงเวลาเป็นนาที จึงกำหนดเอาเวลาเกิดในระยะ 1 ชม. 30 นาที เป็นกรรมวิธีในการวางลัคนา ได้นำมาพิสูจน์แล้วเห็นว่ายังมีความแม่นยำอยู่มาก จึงควรนำมาใช้ด้วย
นอกจากนี้ก็ยังมีกลขับแลกลทายอีกมากมายหลายอย่าง ซึ่งข้าพเจ้าว่ายังหยาบอยู่มาก จึงไม่ได้นำมาลงไว้ในบทความนี้ แต่หากท่านสนใจในเรื่องใด อาจารย์ผู้รู้แตกฉานท่านก็หยิบมาอธิบายได้เป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อมันไม่ค่อยได้ผล จะเอามาหอบไปทำไมให้เหมือนฟาง เอาปกรณ์ที่ชัวร์ ที่สามารถทายเขาได้ว่าจะเกิดโชควันไหน เกิดเคราะห์วันไหน ก็น่าจะพอแล้วมิใช่หรือ
ถามว่าเรียนจากตำราอย่างเดียวแล้วเป็นโหรได้ไหม ต้องตอบว่าได้ แต่ต้องใช้เวลามากเกินเหตุ และจะให้เก่งจริงๆได้ไหม ต้องตอบว่ายาก ไม่ทันเหตุการณ์ แล้วจะทำอย่างไรให้รู้เร็วๆ เก่งไวๆ ต้องตอบว่ามีทางเดียวครับ คือ....เรียนกับครูบาอาจารย์ที่เชี่ยวชาญแตกฉานในวิชานั้นๆ เท่านั้น อ๊ะ! อ๊ะ! อย่าซักไซ้ไล่เรียงให้ละเอียดมากกว่านี้เลยครับ ตอบไม่ได้ วิญญูชนพึงพิจารณาเอาเอง
สำหรับตัวผู้เขียน ศึกษามาตั้งแต่ปี 2506 จนถึงปัจจุบัน ก็ยังถึงที่สุดหามิได้ ขณะนี้ก็พยายามทำวิจัย ทดสอบจากดวงจริงว่า ดวงนี้มีเคราะห์แน่ ก็เกิดจริง ทายว่าจะเกิดในวันที่เท่านั้นเท่านี้ ก็ยังมีผิดมีถูกอยู่ อาจเลยไป 13 วัน อาจเกิดก่อน 7 วัน แต่มันก็เกิด ดาวจรที่จะให้จับหลักกำหนดวันเกิดเหตุในวันเดียวนี้สุดยากยิ่ง แต่ถึงอย่างไรก็พยายามอยู่ ซึ่งถ้ามีสถิติเพียงพอก็น่าจะพอได้สัก 80% ก็น่าจะยินดี อย่าเอาให้ถึง 100% เพราะมันเป็นการพยากรณ์ผลจากสถิติ ใครยังหาครูบาอาจารย์ที่ถูกใจไม่ได้ ลองโทรมาคุยกัน ยินดีสนทนากับทุกคน
ด้วยความรักจากใจจริง
อาจารย์ พูลศักดิ์ แสงคล้อย
นาม มหัทธโน
หน้าโรงพยาบาลเชียงคำ